จากกรณีบ้านหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า จะไม่ย้ายออกจากบ้านหลวง หลังพ้นเก้าอี้นายกฯ เหตุกังวลเรื่องความปลอดภัย

ล่าสุดนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นเรื่องดังกล่าวว่า ตัวเองเป็นคนอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ กรณีบ้านหลวง ใน ร.1 รอ. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ว่าการอยู่บ้านหลวงถูกต้อง โดยใช้ระเบียบบังคับว่าด้วยการพักอาศัย ข้าราชการกองทัพบก

"บิ๊กตู่" ยอมรับเก็บของออกจากทำเนียบแล้ว แต่ขออยู่บ้านหลวงต่อ

"วิโรจน์" ทวีตถึง "บิ๊กตู่" ไม่ย้ายออกจากบ้านพักทหาร ไม่ได้กลัวเรื่องความปลอดภัย แต่กลัวเอกสารลับรั่…

โดยครั้งที่ตัวเองยื่นเรื่องครั้งนั้น เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมือง เนื่องจากเป็นนายกรัฐมนตรี และมีพรรคการเมืองที่สนับสนุนให้เป็นนายกฯ ก็ถือว่าเป็นข้าราชการการเมือง ต้องใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญบังคับ เนื่องจากประโยชน์ขัดกัน ไม่ควรเอาระเบียบกองทัพบกมาพิจารณาคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“แต่ครั้งนี้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งนายกฯ แล้ว โดยวุฒิภาวะควรแสดงสปิริต ว่าไม่ควรอยู่ในบ้านหลวง เพราะหากจะนับว่าเป็นอดีต ผบ.ทบ. ต้องไปดูว่ามีข้าราชการที่เป็น ผบ.ทบ. เกษียณอายุมีหลายคน ไม่เช่นนั้นก็ต้องมาอยู่ และยังเหน็บว่า บ้านหลังนั้นคงจะมีอะไร เพราะเป็นที่ประชุมหารือของบุคคลสำคัญ ใน คสช. ถึงหวงเหลือเกิน”

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ถึงกรณีนี้ในเชิงแซะว่า การที่ พลเอกประยุทธ์ ยังยืนยันที่จะอยู่บ้านหลวง โดยอ้างเรื่องความปลอดภัยนั้น ส่วนตัวคิดว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้กลัวใครมาทำร้ายหรอก แต่อาจจะกลัวว่า เอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ถูกเก็บเอาไว้ที่บ้านหลวงหลังนั้น ซึ่งอาจจะเป็นหลักฐานในการสมคบคิดอะไรบางอย่าง อาจจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนก็เป็นได้

ด้านสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ผลงานของพลเอกประยุทธ์ มีตั้งมากมาย คนรักก็มาก ทำไมถึงกลัวเรื่องไม่ปลอดภัย และยังบอกอีกว่า ตัวเองมีความสุขมากที่ได้อยู่บ้านของตัวเองที่ทำงานหนักเพื่อผ่อนมาตลอดชีวิต แม้ข้าราชการจะให้อยู่บ้านหลวง แต่ตัวเองมีสำนึกว่าควรให้เป็นบ้านรับรองของราชการ ไม่ควรครอบครองไว้

อีกทั้งยังมีความสุขที่ได้ไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง ไม่เป็นภาระใคร และส่วนตัวติดตามข่าวการเมืองพอสมควร แต่ไม่จริงจังมากไป แม้รัฐบาลใหม่ของคนรุ่นใหม่จะทำอะไรขัดใจคนรุ่นเราบ้าง แต่เป็นเรื่องในอำนาจหน้าที่เขา อาจจะมีบ้างที่โพสต์เตือนสติกัน แต่ก็ติเพื่อก่อ

และสุดท้าย ลำพังเงินบำนาญที่ได้รับก็น่าจะเพียงพอกับการดำรงชีวิตแล้ว เอาเวลาไปท่องเที่ยว ได้พูดคุยกับชาวบ้าน รักษาสุขภาพไม่ให้เป็นภาระคนรอบข้างดีกว่า